วิเคราะห์บอล คัดบอลโลก 2022 : ยูเออี -vs- ไทย



วิเคราะห์บอล คัดบอลโลก 2022 : ยูเออี -vs- ไทย


วันแข่ง : วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2564


เวลา : 23.45 น.


ราคาบอล : ยูเออี ต่อ 1.5


สนาม : ซาบีล สเตเดี้ยม



ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม


ยูเออี


04/06/21 ชนะ มาเลเซีย 4-0 (เหย้า) คัดบอลโลก 2022

25/05/21 ชนะ จอร์แดน 5-1 (เยือน) กระชับมิตร

29/03/21 ชนะ อินเดีย 6-0 (เหย้า) กระชับมิตร

12/01/21 เสมอ อิรัก 0-0 (เหย้า) กระชับมิตร

16/11/20 แพ้ บาห์เรน 1-3 (เหย้า) กระชับมิตร


ไทย


04/06/21 เสมอ อินโดนีเซีย 2-2 (กลาง) คัดบอลโลก 2022

30/05/21 แพ้ อุซเบกิสถาน 1-4 (กลาง) กระชับมิตร

29/05/21 เสมอ ทาจิกิสถาน 2-2 (กลาง) กระชับมิตร

25/05/21 แพ้ โอมาน 0-1 (กลาง) กระชับมิตร

14/11/20 เสมอ ไทยแลนด์ ออลสตาร์ 2-2 (เหย้า) กระชับมิตร


ผลการพบกันของทั้งสองทีม


15/10/19 ไทย ชนะ ยูเออี 2-1 / คัดบอลโลก 2022

14/01/19 ยูเออี เสมอ ไทย 1-1 / เอเชี่ยน คัพ 2019

13/06/17 ไทย เสมอ ยูเออี 1-1 / คัดบอลโลก 2018

06/10/16 ยูเออี ชนะ ไทย 3-1 / คัดบอลโลก 2018

03/10/07 ไทย เสมอ ยูเออี 1-1 / กระชับมิตร



วิเคราะห์ก่อนเกม


ยูเออี

     ฝั่งเจ้าบ้าน ยูเออี ของกุนซือ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวย์ค เพิ่งจะเปิดรังถล่ม มาเลเซีย 4-0 เก็บสามคะแนนทะยานขึ้นที่สองของกลุ่ม จี สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามารบกวนจากแมตช์ดังกล่าว นั่นหมายความว่า มาร์ไวย์ค ยังสามารถจัดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามในระบบ 4-2-3-1 โดยมี อาลี มับคูต (89 นัด/73 ประตู) หัวหอกดาวยิงสูงสุดออกสตาร์ทล่าสกอร์ในแดนหน้าและใช้ ฟาบิโอ ลิม่า (6 นัด/3 ประตู), คาลฟาน มูบารัค (29 นัด/1 ประตู) กับ คาลิล อิบราฮิม (12 นัด/6 ประตู) เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง


ทีมชาติยูเออี (4-2-3-1) : อาลี คาซีฟ - บันดาร์ อัล อาห์บาบี้, ชาฮิน อับดุลราห์มาน, วาลิด อับบาส, มาห์มูด คามีส - อาลี ซัลมีน, อับดุลลาห์ รามาดาน - ฟาบิโอ ลิม่า, คาลฟาน มูบารัค, คาลิล อิบราฮิม - อาลี มับคูต


ไทย

      ฝั่งทีมเยือน ไทย ของกุนซือ อากิระ นิชิโนะ เพิ่งจะเสมอกับ อินโดนีเซีย 2-2 ทำให้อันดับหล่นลงมาเป็นที่สามโดยมีแต้มเท่ากันถึงสามทีม สำหรับสภาพทีมล่าสุดก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามารบกวนการวางหมากของ นิชิโนะ ด้านการจัดทัพวันนี้ต้องบอกว่าเดาทางยากพอสมควร เพราะขุมกำลังที่เหลือที่ยังไม่ได้ใช้งานยังมีอยู่เพียบ คาดว่า นิชิโนะ ยังคงยึดระบบการเล่นเดิม 4-2-3-1 โดยมี อดิศักดิ์ ไกรษร (31 นัด/17 ประตู) ยืนหน้าล่าสกอร์เหมือนเดิมและใช้ ศิวกรณ์ เตียตระกูล (8 นัด), ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร (2 นัด) กับ สุภโชค สารชาติ (9 นัด/2 ประตู) เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง ขณะที่มิดฟิลด์คู่กลางวาง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (34 นัด/6 ประตู) กับ สารัช อยู่เย็น (46 นัด) คอยตัดเกมรุกคู่แข่ง


ไทย (4-2-3-1) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน - นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, มานูเอล ทอม เบียรห์, ศศลักษณ์ ไหประโคน - ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สารัช อยู่เย็น - ศิวกรณ์ เตียตระกูล, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, สุภโชค สารชาติ - อดิศักดิ์ ไกรษร


ทรรศนะ
      ถ้าว่ากันตามราคาหน้าเสื่อแล้ว คงมองว่า ไทย ยากที่จะเอาชนะและคว้าสามแต้มมาได้ ฉะนั้นไม่แปลกที่เรตจะเปิดมาเอียงซ้ายฝ่ายเจ้าภาพอยู่พอสมควร อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าทางฝั่ง ยูเออี จะจัดทัพแบบจัดเต็มในแมตช์ที่ถล่ม มาเลเซีย 4-0 ซึ่งนั่นทำให้คู่แข่งสามารถนำเทปบันทึกการแข่งขันไปศึกษาได้อยู่บ้าง สวนทางกับทัพ "ช้างศึก" ที่การจัดตัวผสมในแมตช์เจ๊า อินโดนีเซีย 2-2 อาจจะไม่ได้ในเรื่องของผลการแข่งขัน แต่ในเรื่องแทคติกและการวางหมากเด็ดแก้ทางคู่แข่ง ยังมีตัวเลือกซึ่งเป็นตัวหลักที่ไม่มีชื่อเกมแรกอีกเพียบ ประกอบกับสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างต้องการสามคะแนน ฉะนั้นอะไรก็ไม่แน่ไม่นอน อีกทั้งสถิติการพบกันหนล่าสุดที่ไทยเป็นเจ้าบ้าน ก็เคยเอาชนะมาแล้ว 2-1 เชื่อว่าอย่างน้อยๆ นัดนี้ก็ไม่น่าแพ้และพ่ายยับอะไรขนาดนั้น ฟันธง! จัดไปครับ ไทย ใจต้องนิ่ง...!

ผลการแข่งกันที่คาด : เสมอ 1-1

ราคาบอล : ยูเออี ต่อ 1.5

อัตราความมั่นใจ : 8/10