วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด -vs- ลิเวอร์พูล


วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด -vs- ลิเวอร์พูล


วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด -vs- ลิเวอร์พูล


วันแข่ง : วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤษภาคม 2564


เวลา : 02.15 น.


ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 0/0.5


สนาม : โอลด์ แทรฟอร์ด



ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม


แมนฯยู


12/05/21 แพ้ เลสเตอร์ 1-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

09/05/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

07/05/21 แพ้ โรม่า 2-3 (เยือน) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก

30/04/21 ชนะ โรม่า 6-2 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก

25/04/21 เสมอ ลีดส์ 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก


ลิเวอร์พูล


09/05/21 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

24/04/21 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

20/04/21 เสมอ ลีดส์ 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

15/04/21 เสมอ เรอัล มาดริด 0-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

10/04/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก


ผลการพบกันของทั้งสองทีม


25/01/21 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 / เอฟเอ คัพ

18/01/21 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯยู 0-0

20/01/20 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 2-0

20/10/19 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1

24/02/19 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0



วิเคราะห์ก่อนเกม

แมนฯยู

            ฝั่งเจ้าบ้าน แมนฯยู ของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เพิ่งจะเปิดรังพ่ายให้กับ เลสเตอร์ 1-2 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก ฟิล โจนส์, แดเนี่ยล เจมส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล สี่แข้งเดี้ยงที่หมดสิทธิ์ใช้งานทั้งหมด คาดว่า โซลชาร์ เตรียมวางหมากในแผนการเล่น 4-2-3-1 โดยมี เอดินสัน กาวานี่ ยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ ปอล ป็อกบา เป็นสามประสานกลางรุกคอยสร้างสรรค์เกมรุกอยู่ด้านหลัง


แมนฯยู (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน - อารอน วาน-บิสซาก้า, อีริก ไบญี่, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์ - เฟร็ด, สกอตต์ แม็กโตมิเนย์ - มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, ปอล ป็อกบา - เอดินสัน กาวานี่


ลิเวอร์พูล

            ฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 2-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับสภาพทีมก่อนทำศึกนี้ น่าจะไร้เงา โอซาน คาบัค กับ นาบี เกอิต้า สองแข้งที่ไม่โผล่ตัวมาในการซ้อม ซึ่งน่าจะเป็นเพราะอาการบาดเจ็บเล่นงาน ส่วนพวก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป กับ ควีวีน เคลเลเฮอร์ แม้จะกลับมาลงซ้อมแล้ว แต่ไม่น่าจะพร้อมลงเล่นทั้งหมด คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ ซาดิโอ มาเน่ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์ตามสูตร


ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, จอร์จินิโอ้ ไวย์นัลดุม, เจมส์ มิลเนอร์ - โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่

ทรรศนะ 
      ต้องบอกว่าทีมเยือน ลิเวอร์พูล มีโอกาสเก็บสามแต้มกลับออกไปด้วยสามประเด็นหลักๆ เริ่มต้นด้วยสภาพร่างกายของนักเตะ แมนฯยู ที่แม้จะโรเตชั่นส่งสำรองลงบู๊กับ เลสเตอร์ แต่สุดท้ายก็ต้องเข็นตัวหลักลงบู๊ช่วงกลางครึ่งหลังอยู่ดี แถมฟอร์มล่าสุดก็พ่าย 1-2 อีกด้วย ประเด็นต่อมาคือผลจากการพ่าย "จิ้งจอกสยาม" เมื่อคืนวานทำให้ แมนฯซิตี้ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทันที และนั่นทำให้พวกเขาไม่เหลือลุ้นอะไรแล้วในลีก ซึ่งคงจะโฟกัสสุดๆ กับนัดชิงฯ ยูโรป้า ลีก ปลายเดือนนี้ ปิดท้ายกับโปรแกรมลงเตะ 3 นัดใน 7 วัน แน่นอนว่าเปรียบได้กับการลงโทษของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ จากกรณีแฟนบอลประท้วงจนทำให้เกมแดงเดือดต้องเลื่อนออกไป ถือเป็นการเผาสภาพความพร้อมของทีมอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ได้พักเต็มๆ ร่วมสองสัปดาห์ก่อนจะเปิดรังเอาชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 2-0 ทำให้ 6 เกมลีกที่ผ่านมากำชัยไปเหนาะๆ 4 ครั้งแบบไม่แพ้ใคร (เสมอ 2) ยิ่งไปกว่านั้นการปลดล็อคของ ซาดิโอ มาเน่ กับ ธิอาโก้ อัลคานตาร่า น่าจะทำให้สถานการณ์ในทีมเริ่มดีขึ้น ประกอบกับการลุ้นท็อปโฟร์บีบบังคับให้พวกเขาต้องพยายามเก็บสามคะแนนให้ได้ทุกนัดที่ลงเล่น เมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมต่างๆ ไม่แปลกที่อาคันตุกะจะบุกต่อ เพราะทั้งมั่นใจและสดกว่า แนะนำเอียงขวาผู้มาเยือนเต็มลำ ฟันธง! จัดไปครับ "หงส์แดง"

ผลการแข่งกันที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1

ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 0/0.5

อัตราความมั่นใจ : 8/10